กัญชา

กัญชาเป็นพืชล้มลุกจำพวกหญ้าขึ้นได้ง่ายในเขตร้อน ลำต้นสูงประมาณ 2-4 ฟุต ลักษณะใบจะแยกออกเป็นแฉกประมาณ 5-8 แฉก คล้ายใบมันสำปะหลังที่ขอบใบทุกใบจะมีรอยหยักอยู่เป็นระยะๆ ออกดอกเป็นช่อเล็กๆ ตามง่ามของกิ่งและก้าน ส่วนที่คน นำมาเสพได้แก่ส่วนของกิ่ง ก้าน ใบ และยอดช่อดอกกัญชา โดยนำมาตากหรืออบแห้ง แล้วบดหรือหั่นให้เป็นผงหยาบๆ จากนั้นจึงนำมายัดไส้บุหรี่สูบ (แตกต่างจากบุหรี่ทั่วไปที่ไส้บุหรี่จะมีสีเขียว ต่างจากไส้ยาสูบ ที่มี สีน้ำตาล และขณะจุดสูบจะมีกลิ่นเหมือนหญ้าแห้งไหม้ไฟ) หรืออาจสูบด้วยกล้องหรือบ้องกัญชา บ้างก็ใช้เคี้ยวหรือผสมลงในอาหารรับประทาน ปัจจุบันรูปแบบของกัญชาที่พบ นอกจากจะพบ ในลักษณะของกัญชาสด กัญชาแห้งอัดเป็นแท่งเป็นก้อนแล้ว ยังอาจพบในรูปของ “น้ำมันกัญชา” (Hashish Oil) ซึ่งมีลักษณะเป็นของเหลวสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำได้จากการนำกัญชามาผ่านกระบวน การสกัดหลายๆ ครั้ง จึงได้เป็นนำมันกัญชาที่มีปริมาณสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทสูงถึง 20-60% หรืออาจพบในลักษณะของ “ยางกัญชา” (Hashish) เป็นยางแห้งที่ได้จากใบ และยอดช่อดอกกัญชา ซึ่งโดยทั่วไปจะมีฤทธิ์ แรงกว่ากัญชาสด และมีปริมาณสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประมาณ 4-8%

กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษ ที่ออกฤทธิ์หลายอย่างต่อระบบประสาทส่วนกลาง คือ ทั้งกระตุ้นประสาท กด และ หลอนประสาท สารออกฤทธิ์ที่อยู่ในกัญชามีหลายชนิด แต่สารที่สำคัญที่สุดที่มีฤทธิ์ต่อสมองและทำให้ร่างกาย อารมณ์ และจิตใจเปลี่ยนแปลงไป คือ เตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol) หรือ THC ที่มีอยู่มากในส่วนของยอดช่อดอกกัญชา สาร THC นี้ในเบื้องต้นจะออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้ ผู้เสพตื่นเต้น ช่างพูด และ หัวเราะตลอดเวลา ต่อมาจะกดประสาท ทำให้ ผู้เสพมีอาการคล้ายเมาเหล้าอย่างอ่อน ๆ เซื่องซึม และง่วงนอน หากเสพเข้าไปในปริมาณมากๆ จะหลอนประสาททำให้เห็นภาพ ลวงตา หูแว่ว ความคิดสับสน ควบคุมตนเองไม่ได้

อาการผู้เสพ

ผู้ที่ติดกัญชามักจะเสพมากเป็นพักๆ และมักไม่เกิดอาการดื้อสาร แต่ผู้ที่เสพเป็นเวลานานอาจเกิดอาการดื้อสารได้ โดยต้องเพิ่มปริมาณการเสพขึ้นตามลำดับ ผู้ป่วยอาจเสพกัญชาชนิดแรงตลอดวันเป็นเวลาหลายเดือน หรือหลายปี และใช้เวลาในแต่ละวันหมดไปกับการเสพ ทำให้มีปัญหาครอบครัว การเรียน การทำงานหรือการพักผ่อนหย่อนใจ ผู้เสพอาจมีอาการทางกาย เช่น ไอเรื้อรังหรือง่วงนอนมาก ในระหว่างเสพจะมีอารมณ์รื่นเริงสนุกสนาน หัวเราะโดยไม่มีเหตุผล รู้สึกผ่อนคลาย ง่วงนอน ขาดการควบคุมอารมณ์ การตัดสินใจเสีย ถูกชักจูงง่าย ตาแดง ปากแห้ง หัวใจเต้นเร็วและรับประทานจุ      อันตรายและพิษของสาร อาการพิษมักเกิดภายในเวลาเป็นนาทีภายหลังสูบ และจะมีอยู่นาน 3-4 ชั่วโมง โดยมีอาการวิตกกังวล หงุดหงิดโกรธง่าย อาจมีอารมณ์เศร้า หวาดกลัว ระแวงและมีประสาทหลอน เช่นหูแว่วได้ยินเสียงคน เมื่อคนใกล้ชิด ติดกัญชาแล้ว มีอาการประสาทหลอนคลุ้มคลั่ง ควรนำไปบำบัดรักษาที่โรงพยาบาล นอกจากนี้แล้วผู้ที่อยู่ใกล้ชิดควรช่วยกันป้องกันการเสพกัญชาโดยหากิจกรรมให้ทำ เช่น งานอดิเรก หรือเล่นกีฬา การออกฤทธิ์ของกัญชา       กัญชาจะออกฤทธิ์หลายอย่างผสมผสานกัน เริ่มตั้งแต่กระตุ้น กด และหลอนประสาท เนื่องจากในช่อดอกและใบกัญชามีสารพิษร้ายแรงชนิดหนึ่งเรียกว่า TETRAHYDROCANNABINOL (THC) เป็นสารพิษที่ทำลายสุขภาพร่างกาย และก่อให้เกิดอาการติดยา หลังเสพกัญชาประมาณ 15 - 30 นาที ฤทธิ์ของ THC จะทำให้ร่างกาย อารมณ์ และจิตใจของผู้เสพเปลี่ยนแปลงไป บางรายอาจถึงขั้นไม่สามารถควบคุมสติตนเองได้ และมีอาการของโรคจิตในเวลาต่อมา  - เสพในขนาดสูงขึ้นจะเริ่มมีอาการซึมลง      - เสพในขนาดสูงมากจะมีอาการประสาทหลอนหู มองเห็นวัตถุผิดจากความเป็นจริง      - เสพในระยะเวลานานอาจมีอาการเมินเฉย หรือมีอาการเหมือนโรคจิตเภท หูแว่ว,ประสาทหลอน