วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

มีปัจจัยที่สำคัญๆ แบ่งออกเป็น 2 ประการคือ

1. ปัจจัยที่เกิดจากตนเอง คือ ขาดความรู้ ความเข้าใจ การแก้ปัญหาต่างๆ  ที่ผิดวิธี การมี

               ค่านิยมที่ไม่ถูกต้อง ตลอดจนการขาดความเข้มแข็งของพลังจิต หรือกำลังใจในการต่อสู้กับอุปสรรค

               หรือความกดดันในชีวิต  ตลอดจนการไม่มีทักษะในด้านมนุษยสัมพันธ์ และการสื่อสารกับผู้อื่น 

               ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ไม่ถูกต้อง



 
ในแหล่งชุมชนแออัดมีโอกาสทำให้เกิดการมั่วสุมได้


        2. ปัจจัยที่เกิดจากสิ่งแวดล้อม ได้แก่ สังคม ครอบครัว สถานศึกษา เพื่อน การสื่อสารต่าง ๆ 

               สื่อมวลชน และสภาพของสังคมรอบ สิ่งแวดล้อมเหล่านี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อการชักนำเข้าสู่

               การเสพสารเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแหล่งเสื่อมโทรมจะเห็นปรากฏชัดมาก

               จึงเป็นเหตุให้นักเรียน/นักศึกษา ในแหล่งชุมชนแออัดติดสารเสพติดได้ง่ายและมากกว่าแหล่งอื่น

               ดังนั้นการติดยาเสพติดส่วนใหญ่จะมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ดังต่อไปนี้



                      1) การที่บุคคลนั้นมีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกับยาเสพติดและโดยวิชาชีพของเขา ทำให้มีความ

                          สนใจในสรรพคุณของยาเหล่านั้น สามารถหยิบยาเสพติดมาใช้ได้สะดวก

                          เมื่อมีความรู้สึกแปรปรวนทางอารมณ์  เช่น หงุดหงิด ไม่สบายใจ มีความเครียด กลัดกลุ้ม 

                          นอนไม่หลับ ก็หันเข้าหายาเสพติดโดยตั้งใจจะให้ระงับอาการทุกข์ทรมานดังกล่าว   

                          ต่อมาเมื่อมีการใช้ยาเพื่อระงับอาการดังกล่าวติดเป็นนิสัย และได้ใช้ยาบ่อยครั้งเข้า

                          ก็เพิ่มปริมาณยามากขึ้นเรื่อยๆ  ก็จะกลายเป็นผู้ติดยาในที่สุด


                      2) การอยู่ใกล้ชิดกับผู้ติยาเสพติด การที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดยาเสพติดนั้น

                          ย่อมมีโอกาสได้ศึกษาเรื่องยาเสพติด และสรรพคุณของยาเสพติดโดยทางประสบการณ์ตรง

                          และมักจะเห็นแต่ส่วนที่เป็นประโยชน์ที่ผู้เสพจะชี้แนะ และสำแดงให้เห็นเป็นส่วนใหญ่

                         โอกาสที่ผู้นั้นจะถูกชักชวนให้เริ่มใช้ยาย่อมมีได้มาก เพราะว่าผู้ติดยาเสพติดเองก็ปรารถนา

                          จะได้สมาชิกใหม่ๆ  มาร่วมวง เพื่อได้อาศัยทรัพย์ของผู้เสพติดใหม่มาซื้อยาเสพติดแบ่งกันเสพ            

                          ทางด้านผู้ริเริ่มเสพยาใหม่ ๆ ซึ่งเป็นเด็กวัยรุ่น ก็มีความโน้มเอียงที่จะกระทำตามคำชักชวน

                          ชักจูงเป็นทุนอยู่แล้ว  เพื่อแลกกับการได้เพื่อน ได้เป็นที่ยอมรับของเพื่อน และเพื่อแสดง

                          การปรับตัวให้เข้ากับเพื่อน ๆ นอกจากนี้การบังคับหรือหลอกลวงให้เริ่มใช้ยาก็มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน            

                          สำหรับผู้ที่คลุกคลีอยู่กับยาเสพติด

   3) การใช้ยาอันตราย เพื่อช่วยลดปัญหาผู้ติดยาเสพติดเป็นจำนวนมากเริ่มด้วยการใช้ยาระงับประสาท            

                          เพื่อให้คลายความเครียด คลายความกังวล และความกลัดกลุ้มเนื่องจากปัญหาเรื้อรังในชีวิตประจำวัน            

                          โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กวัยรุ่นมักจะประสบปัญหาทางครอบครัวสารพัดอย่าง เช่นปัญหาเศรษฐกิจ 

                          ความยากจน การแตกแยกของครอบครัว การทะเลาะเบาะแว้งตบตีระหว่างบุคคลในครอบครัว            

                          ความไม่เข้าใจกันระหว่างผู้ใหญ่กับเด็ก เป็นต้น โรงเรียนก็เป็นอีกสังคมหนึ่งของเด็ก            

                          เป็นสังคมที่เด็กต้องใช้ชีวิตท่ามกลางสมาชิกหน้าใหม่ที่มิได้เกี่ยวดองทางสายโลหิต            

                          เป็นสังคมที่เด็กต้องใช้ชีวิตอยู่กับระเบียบ ธรรมเนียม ประเพณี และจารีตของสังคมนั้น            

                          โรงเรียนเป็นสังคมแรกเริ่มที่เรียกร้องให้เด็กต้องยอมรับนับถือในสิทธิและหน้าที่ของบุคคลอื่น            

                          ความรู้สึกว้าเหว่ทางใจ การขาดความอบอุ่น และความรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงอาจเกิดขึ้นกับ

                          เด็กวัยรุ่นในระหว่างที่อยู่ในโรงเรียน  ทำให้เกิดความกังวล และไม่เป็นสุข เพื่อบรรเทา

                          ความกังวลและเป็นทางออกของเด็กที่มีปัญหาเหล่านั้น เด็กก็จะหันเข้าหายาระงับประสาท 

                          บางรายสมัครใจสูบกัญชา เฮโรอีน และบุหร  เพียงเพื่อสนุกกับเพื่อนๆ เท่านั้น ส่วนบางรายใช้

                          ยาเสพติดเพราะเพื่อนๆ  แนะนำว่า ใช้แล้วจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการ "ล่มปากอ่าว" โดยช่วยให้

                          สามารถร่วมประเวณีได้ทนนาน  จะด้วยกรณีใดก็ตาม เมื่อเด็กได้ใช้ยาบ่อยเข้าไม่นาน

                          ก็จะเกิดการติดยา



                      4) ความอยากรู้อยากเห็น ธรรมชาติของเด็กวัยรุ่นหนุ่มสาว ความอยากรู้อยากเห็น            

                          อยากทดลอง จนกว่าจะพอใจ เมื่อใดที่ความสงสัยความอยากรู้ของวัยรุ่นมีมากเพียงพอ            

                          วัยรุ่นก็จะพยายามเสาะหา ค้นคว้า ทดลอง เพื่อให้รู้ให้หายสงสัย โดยไม่คำนึงถึง

                          อันตรายที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะร้ายแรงเพียงใด  การติดเหล้าแห้ง ติดกัญชา 

                          ติดบุหรี่ และติดยาบ้า หรือยาขยัน เป็นตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน    

                          สำหรับการติดยาด้วยสาเหตุของความอยากรู้อยากเห็น อยากทดลอง 

                          โดยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์



                      5) การหลบหนีจากความจริง ในชีวิตของวัยรุ่นนั้นย่อมมีทั้งความสุขและความทุกข์

                          ปะปนกันไปเป็นธรรมดา  แต่สำหรับวัยรุ่นบางคนอาจพบว่า ตนเองต้องจมอยู่ในห้วงเหว

                          เป็นเวลายาวนาน   เมื่อไม่สามารถจะแก้ปัญหาอันเป็นความทุกข์นั้นให้หมดสิ้นได้ 

                          ก็จำต้องหาทางออกอย่างอื่นเพื่อลืมปัญหาชีวิตที่บีบคั้นอยู่  แม้จะช่วยได้เพียงชั่วขณะ

                          วัยรุ่นบางคนจึงหาทางออกโดยการนั่งกรรมฐาน แต่ส่วนมากจะหันเข้าหายา

                          อันตรายที่ทำให้ประสาทหลอน   เกิดภาพมายาเป็นโลกใหม่ที่สดใสตามที่ตนเองต้องการ

                          จะเห็นวัยรุ่นมักจะใช้ยาเสพติดประเภทแอล เอส ดี กับ เอส ที พี กันอย่างแพร่หลาย 

                          กัญชาก็เป็นอีกอย่างที่ให้ผลทางก่อภาพหลอน  แต่จะได้ผลในระยะต้นๆ เท่านั้น



                      6) ความประมาทของแพทย์ ยาเสพติดให้โทษหลายชนิด เป็นยาที่แพทย์ใช้สำหรับระงับ

                          ความเจ็บป่วยรุนแรงของคนไข้  แต่ในกรณีที่แพทย์ใช้ยาโดยไม่ระมัดระวัง 

                          เช่น ใช้พร่ำเพรื่อ ใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม  เป็นต้น เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้คนไข้

                          ติดยาเสพติดโดยไม่รู้ตัว



                      7) ผู้เจ็บป่วยใช้ยาเอง ผู้ป่วยบางรายอยู่ในท้องที่ที่ไม่สามารถจะหาแพทย์ได้            

                          เมื่อเกิดเจ็บป่วยขึ้นมีอาการรุนแรง เช่น กระดูกหัก เป็นนิ่วในไต เป็นโรคเนื้องอกบางอย่าง            

                          เป็นต้น จำต้องหายาระงับมาใช้ด้วยตนเอง เช่น ฝิ่น มอร์ฟีน ยาระงับปวด ระงับประสาทต่างๆ            

                          เท่าที่จะหาได้ และเมื่อต้องใช้บ่อยๆ เข้า ก็จะติดยาเสพติดชนิดนั้นไปในที่สุด



                      8) ใช้เพื่อแสดงความเป็นปฏิปักษ์ต่อสังคม ความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ต่อสังคม            

                          อาจเกิดขึ้นในวัยรุ่นคนใดก็ได้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้เขามองเห็นภาพของสังคม

                          ในลักษณะที่ไม่เป็นมิตร  เห็นว่าสังคมไม่มีความเป็นธรรม สังคมมีแต่ความโหดร้าย 

                          วัยรุ่นที่เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่แตกแยก ขาดพ่อหรือแม่ หรือมีพ่อแต่ขาดการเอาใจ

                          ใส่ดูแล ขาดความรัก ขาดความอบอุ่น  พ่อแม่มีความลำเอียงในการเลี้ยงดูลูก

                          เหล่านี้จะทำให้วัยรุ่นรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่มีความยุติธรรมต่อตน สังคมไม่ยุติธรรมต่อตน 

                          คล้ายกับว่าทั้งพ่อแม่และสังคมเป็นคนละส่วนกับตน  และเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน 

                          เมื่อมีความรู้สึกที่เป็นปฏิปักษ์วัยรุ่นก็จะทำทุกอย่างในทางที่ตรงกันข้ามกับ

                          ความต้องการของสังคม  เพื่อเป็นการตอบโต้โดยดื่มสุรา ยาเสพย์ติด ซึ่งเป็นที่รังเกียจของ

                          ผู้เป็นพ่อแม่และสังคมเป็นคนละส่วนกับตน  และเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน เมื่อมีความรู้สึกที่เป็นปฏิปักษ์ 

                          จึงกลายเป็นสิ่งที่วัยรุ่นเลือกเอามาใช้โต้ตอบสังคม  โดยที่หาได้ตระหนักไม่ว่านั่น

                          คือการทำลายตนเอง  จากข้อมูลข้างต้นที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่า

                          สถานการณ์ในปัจจุบันปัญหา  ยาเสพติดมีความทวีรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

                          โดยเฉพาะการเสพยาบ้าในกลุ่มวัยรุ่น ปัญหาดังกล่าวรัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญ

                          และเร่งรัดให้มีการปราบปรามอย่างจริงจัง และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด  

                          รัฐบาลได้ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการร่วมกันแก้ไขปัญหาการปราบปราม

                          ยาเสพติดอย่างจริงจังในปัจจุบันถ้าหากวัยรุ่นได้มีการฝึกฝนทักษะที่จำเป็น

                          ต่อการดำรงวิถีชีวิตของตนเองให้มีทักษะที่ถูกต้องแล้วจะทำให้วัยรุ่นสามารถ

                          เผชิญต่อปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ได้ และรู้จักแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ด้วยตนเอง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น